สำนักงานขาย โนเบิล
Landscape Art | Exhibition: Honor Award
“This project establishes an inspiration for creating installa-tion art. The utilization of technologies and innovations allows the plant materials to move, hence creating four themes of the space.”
2019 AWARDS JURY
Project Summary :
Noble Sale Gallery is an interior Scape design which presents unique sale gallery project type by combined between Futuristic and the great nature in term of movable exhibition. This project successfully communicates with people through planting, space, movable planter, Installation art and establishes new experience of condominium sale gallery for people to interact with. Create method for plant to survive in enclosed space and lightless area.
ลักษณะโครงการ :
This project is Interactive Installation Art and Interior landscape design
ชื่อโครงการ : สำนักงานขาย โนเบิล
สถานที่ตั้ง : โนเบิล เพลินจิต
LANDSCAPE ARCHITECT : บริษัท แลนด์สเคป คอลลาบอเรชัน จำกัด
หัวหน้าโครงการ : ธัชพล สุนทราจารย์
ภูมิสถาปนิกโครงการ : รัฐพล หัทยาภิชาติ
Client/Owner : The Embassy of Design Territory
ผู้รับเหมางานภูมิทัศน์ : ทรอปปิเคิล การ์เด็น
แนวคิดหลักของโครงการ :
”SHAN SHUI” รูปแบบหนึ่งชองภาพวาดจีนที่สะท้อนให้เห็นความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ (The great nature) ด้วยการนำเอกลักษณ์ที่โดนเด่นทางภูมิประเทศ คือ ภูเขา แม่น้ำ และปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ มาสะท้อนให้เห็นในรูปแบบ abstract ซึ่งโครงการนี้ได้นำจุดเด่นนี้มาผสมผสานเข้ากับพื้นที่อยู่อาศัย โดยใช้แนวคิด “Disruption=Difference” ด้วยการลดทอนลักษณะทางกายภาพของธรรมชาติผ่านการผสมผสานเทคโนโลยีทันสมัยในรูปแบบ Futuristic ที่น่าสนใจและมีเอกลักษณ์เฉพาะ เพื่อนำเสนอโครงการในรูปแบบนิทรรรศการ (Installation art and nature) เพื่อสร้างสรรค์สำนักงานขายรูปแบบใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิมให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสกับ “Surrealistic landscape” ที่มีการเคลื่อนไหวและเปลี่ยนแปลงเหมือนกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ (Phenomenon) ตลอดการเข้าชม
รายละเอียดโครงการ :
โครงการสำนักงานขายโนเบิล (Noble Sale Gallery) มีขนาดพื้นที่สำหรับงานออกแบบทั้งหมด 250 ตร.ม ตั้งอยู่ภายในอาคารสำนักงานโนเบิล เพลินจิต ชั้น 2 ผู้ออกแบบได้สร้างสรรค์ผลงานผ่านแนวคิดในรูปแบบ “Surrealistic landscape” โดยนำมาออกแบบภูมิทัศน์ในลักษณะนิทรรศการและภูมิทัศน์ภายในอาคาร (Installation art and Interior scape) ผู้ออกแบบต้องการจำลองและนำเสนอลักษณะภูมิทัศน์ทางธรรมชาติที่โดดเด่น (The great nature) โดยลดทอนให้มีความเหมาะสมกับเงื่อนไขของพื้นที่ปิดภายในอาคารขนาดเล็ก และผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยีซึ่งเป็นตัวแทนของความทันสมัย เพื่อนำเสนอประสบการณ์ที่แตกต่างและน่าตื่นเต้นให้กับผู้ที่สนใจเลือกซื้อโครงการในเครือโนเบิล
ผังพื้นที่โครงการสำนักงานขายโนเบิล เพลินจิต สามารถแบ่งพื้นที่จัดแสดงออกได้เป็น 5 ส่วน (Zoning) ดังนี้
(1) พื้นที่ต้อนรับ (Reception) จุดเริ่มต้นของโครงการ โดยนำเสนอส่วนบทนำ (Intro) ของเรื่องราว The great nature ที่อยู่ภายใน
(2) พื้นที่เชื่อมต่อ (Transition) เชื่อมต่อพื้นที่ต้อนรับกับพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ เพื่อสร้างบรรยากาศและปรับอารมณ์ของผู้ใช้งาน
(3) พื้นที่จัดแสดงนิทรรศการส่วนต้น หรือเรียกว่าพื้นที่ส่วน Phenomenon โดยนำเสนอแนวคิด The great nature ด้วยเทคโนโลยีทันสมัยผ่านหน้าจอในรูปแบบ Cinematic Video และ 3D LED Tube ในลักษณะภาพเคลื่อนไหว
(4) พื้นที่จัดแสดงนิทรรศการส่วนหลัง หรือเรียกว่า Forest Bathing เป็นโถงจัดแสดงหลักที่นำเสนอธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ในรูปแบบลดทอนอย่างเหมาะสมกับพื้นที่ในอาคารตามแนวคิด Surrealistic Landscape โดยสามารถแบ่งพื้นที่ได้เป็น
(4.1) Moss Zone นำเสนอความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติที่เริ่มต้นจากพื้นดิน ก่อนขึ้นสู่หมู่แมกไม้ด้านบนในส่วนที่ 4.2 โดยพื้นที่บริเวณนี้ได้ใช้เทคนิคพิเศษในการปลูกมอสตามทางเดิน
(4.2) Kinetic Zone เป็นการลดทอนป่าเขาที่ยิ่งใหญ่ให้สามารถจัดแสดงภายในอาคารขนาดเล็กได้ในรูปแบบ Installation Art โดยใช้กระบะต้นไม้ที่มีเทคโลโนยี Kinetic (Hanging Kinetic Planter) จำนวนมากที่สามารถเคลื่อนไหวในทางดิ่ง (Vertical Element) ปรับให้มีขนาดและน้ำหนักที่เหมาะสม จัดกลุ่มในลักษณะ Grid Line และออกแบบให้เคลื่อนไหวตามมุมมองของผู้เข้าชม (Scene) ตั้งแต่จุดเริ่มต้น (4.2.1) ผู้เข้าชมจะมองเห็นกลุ่มต้นไม้เสมือนภูเขาที่สูงขึ้นไปทางด้านหลัง (4.2.2) จากนั้นผู้เข้าชมจะเดินเข้าไปอยู่ท่ามกลางกลุ่มแมกไม้ที่ค่อยๆเคลื่อนตัวขึ้นด้านบนเปิดออกให้เห็นธรรมชาติภายใน (4.2.3) เมื่อได้เข้าไปอยู่ภายในจะมองเห็น Hanging garden อยู่รอบตัวทั้ง 360 องศาทั้ง Horizontal และ Vertical (4.2.4) และเมื่อได้เดินไปจนสิ้นสุดส่วนแสดงเมื่อมองกลับมา กลุ่มต้นไม้จะเคลื่อนตัวกลับลงมา กลายเป็นกลุ่มภูเขาที่สูงขึ้นไปทางจุดเริ่มต้นแทน
(5) พื้นที่จัดแสดงห้องตัวอย่างของโครงการ เปรียบเสมือนที่อยู่อาศัยท่ามกลางธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ ผู้เข้าชมสามารถนั่งอยู่ภายในห้องตัวอย่างและมองกลับมาเห็นภูเขาด้านหน้าได้ตลอดเวลา
กระบวนการออกแบบของโครงการนี้ ได้ออกแบบให้เหมาะสมกับข้อจำกัดที่หลากหลายของพื้นที่ ดังนี้
(1) พื้นที่มีขนาดเล็ก จึงออกแบบให้ Interior scape มีหลายระดับ (Layers) ทั้งระดับทางเดิน ระดับสายตา ด้านข้างและด้านบนที่สามารถเคลื่อนไหวขึ้นลงได้ สะท้อนแนวคิดความทันสมัย (Futuristic) ได้ทั้ง 360 องศา ใช้การผสมผสานระหว่างเทคโนโลยี Kinetic ร่วมกับการปลูกพืชโดยคำนึงข้อจำกัดด้านการรองรับน้ำหนักและการดูแลรักษา
โดยบริเวณ Kinetic zone ออกแบบให้กระบะต้นไม้มีน้ำหนักเบา ด้วยการใช้เทคนิคใส่กระถางต้นไม้เล็กๆไว้ภายในกระบะ Kinetic เพื่อให้ลดปริมาณน้ำหนักดินปลูก ทั้งช่วยลดน้ำหนักให้กับเครื่อง Kinetic และสามารถเปลี่ยนแปลงพืชพรรณได้ง่ายเพียงแค่นำกระถางเล็กๆภายในออก นอกจากนั้นยังใช้เทคนิค Self-Watering เพื่อลดความชื้นในอากาศ โดยมีพื้นที่ใส่น้ำไว้ด้านล่างของกระบะ และใช้วัสดุที่สามารถสะท้อนแสงปิดผิวไว้ด้านล่าง เพื่อให้สะท้อนพืชพรรณสีเขียวด้านล่าง เพิ่มพื้นที่ทางธรรมชาติให้ดูกว้างขึ้น
(2) พื้นที่อยู่ภายในอาคารทั้งหมด เป็นพื้นที่ปิด และใช้เครื่องปรับอากาศตลอดเวลาใช้งาน ทำให้อากาศมีความชื้นต่ำและไม่สามารถรดน้ำต้นไม้ขณะเปิดเครื่องปรับอากาศได้ การออกแบบจึงคำนึงถึงเทคนิคการให้น้ำพืชพรรณการเลือกใช้พืชพรรณเป็นพิเศษ
การให้น้ำพืชพรรณในบริเวณ Moss zone ได้ออกแบบให้เป็นกระบะต้นไม้ที่ลึกลงไป สามารถใส่น้ำไว้ภายในคอยรักษาความชื้น และสามารถปรับเปลี่ยนปริมาณน้ำได้ตลอดเวลา ใช้หินฟองน้ำภายในกระบะ เพื่อเก็บความชื้นในหินหล่อเลี้ยงมอสได้ โดยเทคนิคนี้มีประโยชน์ในการป้องกันความชื้นที่มากเกินจนส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมภายในอาคาร เช่น เครื่องปรับอากาศและวัสดุพื้นผิวตกแต่งภายในอาคาร นอกจากนั้นยังได้เลือกใช้พรรณไม้ทนร่ม และทนอากาศแห้งได้ดี
ความพิเศษของโครงการสำนักงานขายโนเบิล ได้มีการบูรณาการความรู้ต่างสาขาวิชา โดยผู้ออกแบบได้ประสานงานกับผู้เชี่ยวชาญทั้ง ฝ่ายเทคโนโลยี Kinetic ซึ่งได้ร่วมออกแบบ Scene ให้สื่อแนวคิดของโครงการและสอดคล้องกับข้อจำกัดของเทคโนโลยี รวมทั้งกลุ่ม Supplier ในการเลือกใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเหมาะสม และได้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านพืชพรรณเพื่อให้สามารถปลูกต้นไม้ในอาคารปิดได้