สมาชิกของสมาคมมี 5 ประเภท คือ

1.สมาชิกกิตติมศักดิ์

2.สมาชิกสามัญ ได้แก่
- ผู้เป็นสมาชิกวิสามัญของสมาคมต่อเนื่องกันเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 2 ปี เป็นผู้มีความประพฤติดีและได้อุทิศตัวให้กับวิชาชีพภูมิสถาปัตยกรรม โดยกรรมการบริหารสมาคมภูมิสถาปนิกประเทศไทยเห็นสมควรรับเข้าเป็นสมาชิกสามัญ

3.สมาชิกวิสามัญ ได้แก่
- ผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือสูงกว่าในสาขาภูมิสถาปัตยกรรมในหลักสูตรที่สมาคมรับรอง
- ผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือสูงกว่าในสาขาวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับงานภูมิสถาปัตยกรรมในหลักสูตรที่สมาคมรับรอง และได้ทำงานในสาขาที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพภูมิสถาปัตยกรรมต่อเนื่องกันเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 2 ปี และมีผลงานดีเด่น ซึ่งคณะกรรมการสมาคมเห็นสมควรรับเข้าเป็นสมาชิก
- บุคคลทั่วไปที่มีประสบการณ์ทำงานเกี่ยวข้องกับวิชาชีพภูมิสถาปัตยกรรม เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี และได้แสดงความตั้งใจที่สนับสนุนส่งเสริมวิชาชีพฯและสมาคมอย่างเต็มที่ ซึ่งคณะกรรมการสมาคมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้เข้าเป็นสมาชิกวิสามัญ

4.สมาชิกสมทบ แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่นตามจำนวนที่กำหนด หรือ
- ประเภทนิสิตนักศึกษา ผู้ที่กำลังศึกษาระดับปริญญาตรีหรือสูงกว่าในสาขาภูมิสถาปัตยกรรมหรือสาขาอื่นที่เกี่ยวข้องที่มีความสนใจในวิชาชีพภูมิสถาปัตยกรรม
- ประเภทบุคคลทั่วไป ที่มีความสนใจในวิชาชีพภูมิสถาปัตยกรรม

5.สมาชิกนิติบุคคล แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่
- สมาชิกนิติบุคคลประเภทสามัญ คือ นิติบุคคลที่ประกอบวิชาชีพภูมิสถาปัตยกรรม และ/หรือ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพภูมิสถาปัตยกรรมควบคุมประเภทนิติบุคคลจากสภาสถาปนิก
- สมาชิกนิติบุคคลประเภทวิสามัญ คือ นิติบุคคลที่มิได้ประกอบวิชาชีพภูมิสถาปัตยกรรม แต่มีความสนใจในวิชาชีพ และมีความประสงค์จะสนับสนุนกิจกรรมของสมาคม โดยคณะกรรมการสมาคมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้เข้าเป็นสมาชิก

คุณสมบัติของสมาชิก สมาชิกจะต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี

1.เป็นผู้บรรลุนิติภาวะแล้ว

2.ไม่เป็นผู้มีความประพฤติเสื่อมเสียหรือบกพร่องในศีลธรรมอันดี

3.ไม่ประพฤติผิดจรรยาบรรณอันนำมาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ

4.ไม่เป็นผู้เคยต้องโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุด ในกรณีที่สมาคมเห็นว่าอาจนำมาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ

5.ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต หรือไม่เป็นโรคติดต่อร้ายแรงที่สามารถติดต่อได้ง่าย
ใน

6.กรณีที่เป็นสมาชิกนิติบุคคล
- เป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนในราชอาณาจักรไทยตามประมวลกฎหมายแพ่งและ พาณิชย์และเป็นไปตามระเบียบของสมาคม
- เป็นหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
- ต้องไม่ถูกแจ้งเวียนประกาศความผิดจากทางราชการหรือมีความเสื่อมเสียเป็น ที่ประจักษ์ต่อสาธารณชน